You are here : ข่าวประกาศ  >  ประกาศสหกรณ์ (ไม่ใช้)  >  รายละเอียดประกาศ
รายละเอียดประกาศ
6 เคล็ดลับอายุยืน
Created by doacoop on 9/25/2015 10:59:37 AM

    " มนุษย์ทุกคนบนโลกล้วนอยากมีอายุยืนยาว แต่การมีอายุยืนยาวนั้นจะมีวิธีอะไรบ้าง ........ มาดูกันเลย "



6 เคล็ดลับอายุยืน !!

               ถ้าถามมนุษย์ทุกคนในโลกนี้ว่าอยากมีอายุสั้นหรืออายุยืนยาว แน่นอนว่าร้อยทั้งร้อยต้องตอบตรงกันว่าอยากจะมีชีวิตยืนยาวอยู่ในโลกนี้ไปนานๆ ซึ่งหากเราต้องการที่จะมีอายุยืนยาวนั้นเราต้องดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสมและถูกต้อง ดังนี้ 

               1.รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ได้แก่ การรับประทานอาหารให้ครบ5หมู่ รับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง ประเภทธัญพืชที่มีวิตามินสูงแต่มีแคลอรี่ต่ำ เช่น ลูกเดือย ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด ข้าวกล้อง ซึ่งจะดีต่อร่างกายมากถ้ารับประทานในทุกๆเช้า เพราะจะช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในภาวะสมดุลตลอดวัน ทำให้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูง ที่เป็นสาเหตุใหญ่ต่อการเกิดโรคต่างๆซึ่งทำให้คนมีอายุสั้น นอกจากนี้ ควรลดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลในขนมหวานและน้ำหวานประเภทต่างๆ และหันมารับประทานผลไม้เป็นของหวานแทน อีกทั้งดื่มน้ำธรรมดาวันละอย่างน้อย8แก้ว เพื่อการมีสุขภาพที่ดีของเรา

               2.ออกกำลังกายอยู่เสมอ การออกกำลังกายช่วยทำให้เรามีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้เป็นอย่างดี ดังนั้น เราควรออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอยู่เป็นประจำ เช่น แกว่งแขน เต้นแอโรบิค เล่นโยคะ ปั่นจักรยาน วิ่ง เดิน ว่ายน้ำ เล่นแบดมินตัน เล่นฟุตบอล การออกกำลังและเล่นกีฬานั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะมีรูปร่างที่สมส่วนและไม่อ้วน อีกทั้งช่วยให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีที่จะทำให้เราห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย

              3.นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ร่างกายของคนเราไม่ใช่เครื่องจักร หากไม่รู้จักนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ แก่เร็ว อีกทั้งเป็นโรคต่างๆได้ง่าย แต่ถ้านอนหลับพักผ่อนเพียงพอร่างกายก็จะแข็งแรงและสดชื่นเพราะในขณะที่เราหลับนั้นจะเป็นช่วงที่ร่างกายฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ส่วนใดที่สึกหรอก็จะได้รับการซ่อมแซม ดังนั้น คนเราควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-7 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วเมื่อตื่นขึ้นมาจะทำให้ร่างกายและสมองตื่นตัวกระปรี้กระเปร่าพร้อมทำกิจการงานต่างๆในแต่วันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

              4.เดินทางท่องเที่ยว การเดินทางท่องเที่ยว ได้ไปต่างสถานที่หรือได้ไปในที่แปลกๆใหม่ๆจะช่วยทำให้อารมณ์เบิกบานและจิตใจสดชื่น ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้ลืมความวิตกกังวลที่มีอยู่ เพราะรู้สึกตื่นตาตื่นในกับสิ่งที่ได้เห็นได้สัมผัส อีกทั้งเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆให้กับตนเองซึ่งทำให้มีความสุขสนุกสนาน เช่น ไปเที่ยวทะเล ไปเที่ยวป่า ไปต่างจังหวัด ไปต่างประเทศ ไปเดินเล่นในไร่ในสวน การไปท่องเที่ยวถือเป็นการพักผ่อนที่ดีมากกว่าการใช้เวลานอนดูทีวีเฉยๆทั้งวันทั้งคืนทั้งในแง่ของสุขภาพกายและสุขภาพใจ เพราะการออกไปเที่ยวก็ทำให้กายได้เคลื่อนไหว ใจและอารมณ์ก็ได้ถูกปลดปล่อยนั่นเอง

             5.มีเวลาว่างให้กับตัวเอง นอกเหนือจากการทำหน้าที่การงานประจำในแต่ละวัน เราทุกคนควรหาเวลาว่างเพื่อทำในสิ่งที่ตนเองรัก เช่น อ่านหนังสือ เล่นดนตรี เลี้ยงสัตว์ ประดิษฐ์สิ่งของ ทำงานศิลปะ เพื่อช่วยให้เราได้เกิดความเพลิดเพลินและมีสุขภาพจิตที่ดี โดยเฉพาะในผู้สูงวัย การอ่านหนังสือเป็นการช่วยเพิ่มความจำได้ดี การเล่นดนตรีช่วยให้อารมณ์ดี ช่วยทำให้สมองเกิดการวิเคราะห์และสังเคราะห์ ซึ่งเป็นการช่วยบริหารให้สมองเกิดความคิดรวบยอดและความคิดสร้างสรรค์ทำให้ไม่หลงลืมอะไรได้ง่าย นอกจากนี้ การเลี้ยงสัตว์ก็ช่วยทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ทำให้ไม่เหงาซึ่งช่วยทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย

6.ใกล้ชิดกับศาสนา เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยนำให้เราเป็นคนมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต คิดบวก มองโลกในแง่ดี มีจิตใจที่มุ่งไปในด้านคุณธรรมซึ่งส่งผลให้เป็นคนไม่คิดร้ายและให้อภัยต่อผู้อื่น อีกทั้งมีสติรอบคอบในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ช่วยให้เราเป็นคนมีจิตใจที่สงบ ไม่ตึงเครียดง่าย มีความหวังที่สวยงามในชีวิตมากขึ้น ซึ่งก็มีส่วนช่วยให้เรามีอายุยืนยาวต่อไปได้

ใครๆก็อยากมีอายุยืนยาวอยู่ในโลกนี้ไปนานๆ เพราะหวังจะได้มีโอกาสทำความดีและสร้างประโยชน์ให้ได้มากๆ หรือหวังจะได้เห็นลูกหลานเติบโตและได้เฝ้ามองความสำเร็จของพวกเขา หรือหวังจะได้ท่องเที่ยวไปให้ได้มากดังใจฝัน ดังนั้น เราจึงต้องรักษาสุขภาพกายใจ ระมัดระวังในการกินอยู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง นอกจากนี้ การใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์ การใกล้ชิดกับศาสนาก็ช่วยทำให้เรามีสติ มีจิตใจที่ดีงาม ซึ่งส่งผลให้เรามีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ ทำให้เราสามารถจะอยู่ในโลกนี้ไปได้อีกนานๆ


ขอขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก  : www.thaihealth.or.th และ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ โดย ดร.แพง ชินพงศ์

print
rating
  Comments

Return